กินอาหารและสมุนไพร
ได้แก่ กินผักผลไม้ กินน้ำแช่ดอกไม้จากเมกกะ
กินรากไม้
อาหารที่ห้ามกิน
ห้ามกินของร้อนของเผ็ด
เพราะคนในสมัยก่อนเชื่อว่าอาหารที่แม่กินหรือดื่มเข้าไป
จะไปรดหัวเด็กในท้องให้ร้อน แต่ตาม เหตุผล อาหารทุกอย่างที่แม่กินเข้าไป
ลูกในท้องจะได้รับหมด อาหารร้อนและเผ็ดจึงไม่เป็นผลดีต่อทารก
ห้ามกินข้าวอิ่มทีหลังผู้อื่น
จะทำให้เกิดยาก ที่จริงคงกลัวว่าหญิงตั้งครรภ์จะกินอาหารมากเกินไปทำให้อึดอัดไม่สบาย
และอ้วน เกินไปทำให้คลอดยาก เลยให้กิน แต่พอดี แล้วให้ลุกจากวงข้าวไปเสีย
หลังจากที่คนอื่นกินอิ่มหมดแล้ว หากรู้สึกหิวจึงค่อยมากินทีหลังอีกทีได้
ห้ามแม่มานกินปลีกล้วยหรือดอกกล้วย
ซึ่งคนล้านนาชอบนำมาแกง นำมาต้มจิ้มน้ำพริก และทำห่อหมก เพราะเชื่อว่า
รกจะเปลี่ยนแปลงรูปร่างให้มีลักษณะเหมือนดั่งปลีกล้วย คือมีปลายแหลม เมื่อเกิดลูก
รกจะไม่ยอมออกและจะบินขึ้นข้างบนไปปิดลิ้นหัวใจ ทำให้เป็นอันตรายถึงชีวิต
ผักที่เป็นเครือเถา เช่น
ผักตำลึง มะระ ยอดฟักทอง เป็นต้น ยกเว้นผักปั๋ง (ผักปลัง)
เชื่อว่าผักที่เป็นเครือเถาทั้งหลายมีมือ
(เถา) ที่ยึดติดไม้แน่นโยงใย เมื่อแม่มานกินจะทำให้เกิดลูกยาก
ติดแน่นอยู่ในท้องไม่ยอมออกโดยง่าย หากต้องกินผักพวกนี้
ต้องเด็ดมือของผักเหล่านี้ออกให้หมดเสียก่อน
หอย
ห้ามแม่มานกินอาหารประเภทหอยทุกชนิด
เชื่อว่าจะทำให้คลอดยากเหมือนกับหอยที่ติดอยู่ในเปลือก และจะทำให้มีกลิ่น
คาวมากในเวลาคลอด เด็กจะไม่ค่อยสบาย มีโรคเบียดเบียน
เนื้อวัว
ถือว่าเนื้อวัวเป็นเนื้อที่แสลงโรคหลายชนิด หมอพื้นบ้าน
จึงห้ามคนที่เป็นโรคเหล่านั้นกินเนื้อวัว แม่มานก็ เช่นเดียวกันห้ามกินเนื้อวัว
เพราะ เชื่อว่าเวลาคลอดจะทำให้เกิดไขมันมาก เนื้อตัวทารกที่เกิดใหม่จะเต็มไปด้วยไขมัน
ล้างออกยาก
กล้วยใต้
หรือกล้วยน้ำว้า เป็นกล้วยที่ให้คุณค่าทางอาหารมาก แต่ก็ห้ามแม่มานกิน
เพราะจะทำให้เด็กที่อยู่ในท้องอ้วนท้วน สมบูรณ์มากไป ทำให้คลอดยาก คนในสมัยก่อน
ถ้าทำให้เด็กตัวเล็กมากเท่าใดยิ่งดี คงถือเอาการเกิดง่ายเป็นหลัก เป็นความจำเป็นอย่างหนึ่งเพราะไม่มีแพทย์และเครื่องมือแพทย์ที่ทันสมัยเหมือนปัจจุบัน
ถ้าปล่อยให้เด็กอ้วนจนคลอดออกมาไม่ได้ จะสร้างความ ยุ่งยากให้แม่ช่างผู้ทำคลอด
และเป็นอันตรายถึงชีวิตทั้งแม่และลูก
ปัจจุบันนี้ถ้าทารกอ้วนมากไม่สามารถคลอดตามธรรมชาติได้ แพทย์จะทำการผ่าตัดให้ จึงไม่เป็นอันตราย
ผักแว่น ขึ้นทั่วไปตามทุ่งนา
มีรากและต้นยาวลงไปในโคลนและลอยอยู่ในน้ำ คนล้านนานิยมนำทั้งต้นมาจิ้มน้ำพริกปลา
และเอาเฉพาะส่วนใบแกงใส่ปลาเผา ห้ามแม่มานกินผักแว่น เชื่อว่าทำให้เกิดลูกยาก
เหมือนกับรากผักแว่นที่ยึดติดกับโคลน
มะเขือพวง
คนล้านนาเรียกมะเขือพวงว่า "บ่าแคว้งกุลวา" ห้ามแม่มานกินมะเขือพวง
ทำให้เกิดอาการคันที่หน้าท้อง เมื่อเกามากๆ เข้าจะทำให้เป็นแผล
เห็ดแดง เป็นเห็ดป่าชนิดหนึ่ง
เมื่อนำมาแกงจะมียางลื่นมาก ต้องใส่ส้มมะนาวหรือมะขามด้วยจึงจะหายยาง ห้ามแม่มาน
กินเห็ดแดง เพราะเชื่อว่าลูกเกิดมาจะเป็นโรคเรื้อน
ไข่ต่อ ไข่แตน
นำมาห่อใบตองปิ้งไฟให้สุก หรือนำมาใส่ไห นึ่งไฟ กินกับน้ำพริกแดง
ห้ามแม่มานกินไข่ต่อไข่แตน
เชื่อว่าจะทำให้เด็กที่เกิดมาเมื่อโตขึ้นอยู่ในวัยกำลังซน จะเป็นคนชอบกัด
หรือชกต่อยผู้อื่น และเป็นคนที่มีนิสัยดุร้าย
ไข่ด้าน
คนล้านนาเรียกว่าไข่ร่วน คือไข่ที่แม่ไก่ฟักแล้วไม่ออกเป็นตัว
หรือเรียกว่าไข่ค้างรัง ห้ามแม่มานนำมาต้มกิน
เชื่อว่าจะทำให้เด็กที่เกิดมาเป็นคนดื้อด้าน
ว่ายากสอนยากไม่อยู่ถ้อยฟังคำของพ่อแม่
ไส้ปลา
ห้ามแม่มานกินไส้ปลาทุกชนิด เชื่อว่าจะทำให้เอ็น
หรือเส้นเลือดขอดลักษณะเป็นดั่งไส้ปลานั้น โดยเฉพาะที่บริเวณ ขาและน่อง
อาหารที่ควรกิน
แกงผักปั๋ง (ผักปลัง)
ผักปั๋งเป็นผักที่มียางหรือเมือกลื่น
ใช้ทำแกงได้โดยโขลกพริกและใส่มะขามหรือมะนาวด้วย หรือจะเจียว
ผักปั๋งไม่ใส่พริกแต่ใช้พริกสดเผาใส่ลงไปด้วย
เชื่อว่าถ้าให้แม่มานกินแกงผักปั๋งทุกวันเดือนดับเดือนเต็ม จะทำให้เกิดลูกง่าย
ทำให้ลื่นไหลเหมือนกับผักปั๋ง
แกงหยวก หยวกคือต้นกล้วยหรือหน่อกล้วย
นำมาแกะเอาเฉพาะข้างใน ตัดเป็นท่อนยาวขนาด 1 นิ้ว แล้วหั่นเป็นชิ้นๆ
แกงใส่ไก่หรือเนื้อ ให้หญิงแม่มานกินบ่อยๆ
จะทำให้ลูกที่เกิดมามีผิวพรรณขาวนวลเหมือนดังหยวกกล้วย
มะพร้าวอ่อน
เชื่อว่าถ้าแม่มานได้ดื่มน้ำมะพร้าวอ่อนรวมทั้งกินเนื้อมะพร้าวด้วย
อย่างน้อยอาทิตย์ละ 1 ครั้ง จะทำให้เด็กที่ เกิดมามีผิวพรรณสะอาด
เวลาเกิดจะมีไขมันน้อย
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น